5เทคนิค ขับรถอย่างไร ?ให้ประหยัดน้ำมัน

การขับรถให้ประหยัดน้ำมันไม่เพียงช่วยลดค่าใช้จ่ายแต่ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและรักษาสิ่งแวดล้อม

นี่คือ 5 เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณขับรถอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดน้ำมันมากขึ้น

1. ใช้ความเร็วคงที่ประมาณ 80-90 กม./ชม.

การรักษาความเร็วคงที่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน ความเร็วที่เหมาะสมสำหรับการประหยัดน้ำมันอยู่ที่ประมาณ 80-90 กม./ชม. การเร่งความเร็วหรือชะลอความเร็วบ่อยๆ จะทำให้การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น

2. ไม่เบิ้ล ไม่กระชาก ไม่ลากเครื่องยนต์

การขับรถอย่างนุ่มนวลโดยไม่เบิ้ลหรือกระชากเครื่องยนต์ช่วยลดการเผาผลาญน้ำมัน การเร่งเครื่องแรงๆ หรือลากเกียร์จะทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักและใช้เชื้อเพลิงมากขึ้น ควรเปลี่ยนเกียร์ที่เหมาะสมกับความเร็วและสภาพถนน

3. ไม่เบรกกะทันหัน ทำให้รถต้องเปลี่ยนเกียร์เร็ว

การเบรกกะทันหันและบ่อยๆ จะทำให้รถต้องเปลี่ยนเกียร์บ่อยขึ้น ซึ่งส่งผลให้การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้น ควรใช้การเบรกอย่างนุ่มนวลและค่อยๆ ชะลอความเร็วเมื่อเห็นว่าต้องหยุดข้างหน้า

4. เติมลมยางตามกำหนดที่คู่มือรถแนะนำ

การเติมลมยางตามกำหนดที่คู่มือรถแนะนำจะช่วยลดการเผาผลาญเชื้อเพลิง ยางที่มีลมต่ำกว่ามาตรฐานจะทำให้รถต้านทานการเคลื่อนที่มากขึ้นและทำให้เครื่องยนต์ต้องใช้พลังงานมากขึ้นในการขับเคลื่อน

5. ดับเครื่องยนต์ขณะจอดรถนานๆ

การติดเครื่องยนต์ขณะจอดรถนานๆ จะทำให้การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น ถ้าต้องจอดรถในที่เดิมนานเกิน 1 นาที ควรดับเครื่องยนต์เพื่อประหยัดน้ำมันและลดการปล่อยมลพิษ

การขับรถอย่างมีประสิทธิภาพเป็นเรื่องที่ไม่ยากเพียงแค่ต้องใส่ใจและปฏิบัติตามเทคนิคเหล่านี้ จะช่วยให้คุณประหยัดน้ำมัน ลดค่าใช้จ่าย และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

Articles, Lifestyles

บทความที่เกี่ยวข้อง

  • Knowledge
    Knowledge

    เรื่องต้องรู้ !! ก่อนเป็นหนี้

    การเป็นหนี้เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ต้องเผชิญในช่วงชีวิต ไม่ว่าจะเป็นหนี้สินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน รถยนต์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคล แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเป็นหนี้ มีสิ่งสำคัญที่คุณควรทราบเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ดังนี้ 1. ความสามารถในการผ่อนชำระ ก่อนที่จะยื่นขอสินเชื่อ ควรประเมินความสามารถในการผ่อนชำระของตนเองให้ดี รายได้และค่าใช้จ่ายที่คุณมีจะส่งผลต่อการผ่อนชำระในแต่ละเดือน หากคุณต้องจ่ายค่างวดที่สูงเกินไป อาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางการเงินในระยะยาว การจัดการงบประมาณอย่างรอบคอบและมีความรับผิดชอบจึงเป็นสิ่งสำคัญ 2. ประเภทของสินเชื่อ สินเชื่อมีหลายประเภท เช่น สินเชื่อทะเบียนรถ สินเชื่อโฉนดที่ดิน สินเชื่อส่วนบุคคล ฯลฯ แต่ละประเภทมีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่แตกต่างกัน คุณควรเลือกสินเชื่อที่ตรงกับความต้องการและสถานการณ์ทางการเงินของคุณ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด 3. อัตราดอกเบี้ยและวิธีการคำนวณ อัตราดอกเบี้ยเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา เพราะจะส่งผลต่อยอดเงินที่ต้องชำระรวมทั้งหมด คุณควรเข้าใจวิธีการคำนวณดอกเบี้ย ทั้งแบบคงที่และแบบลดต้นลดดอก เพื่อให้สามารถประเมินได้ว่าสินเชื่อใดมีความคุ้มค่ามากที่สุด 4. ความสะดวกของช่องทางชำระหนี้ ควรตรวจสอบว่าผู้ให้บริการสินเชื่อมีช่องทางการชำระเงินที่สะดวกสำหรับคุณหรือไม่ เช่น การชำระผ่านธนาคาร การหักบัญชีอัตโนมัติ หรือการชำระผ่านแอปพลิเคชันมือถือ การมีช่องทางที่สะดวกจะช่วยให้คุณสามารถชำระหนี้ได้ตรงเวลาและไม่พลาดค่างวด 5. หลีกเลี่ยงสินเชื่อนอกระบบ สินเชื่อนอกระบบมักมีอัตราดอกเบี้ยสูงและเงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจทำให้คุณตกอยู่ในวงจรหนี้ที่ไม่สามารถหลุดพ้นได้ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการกู้เงินจากแหล่งที่ไม่มีการควบคุมและหันมาใช้บริการสินเชื่อจากสถาบันการเงินที่เชื่อถือได้ 6. ระยะเวลาผ่อนชำระ ระยะเวลาผ่อนชำระจะส่งผลต่อยอดเงินที่ต้องชำระในแต่ละเดือน ระยะเวลานานจะทำให้ยอดค่างวดลดลงแต่ต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้น ในขณะที่ระยะเวลาสั้นจะทำให้ยอดค่างวดสูงขึ้นแต่จ่ายดอกเบี้ยน้อยลง คุณควรเลือกระยะเวลาที่เหมาะสมกับสถานการณ์การเงินของคุณ 7. คุณภาพการให้บริการ คุณควรเลือกสถาบันการเงินที่มีคุณภาพการให้บริการที่ดี […]

    [email protected]
    อ่านเพิ่มเติม
  • Knowledge
    Knowledge

    ก่อนโอนต้องรู้ !! ชำระค่างวดผ่านแอปพลิเคชันดีอย่างไร ?

    ในยุคนี้ การชำระค่างวดและการทำธุรกรรมออนไลน์กลายเป็นเรื่องที่คุ้นเคยและสะดวกสบายสำหรับหลายคน แต่อย่างไรก็ตาม การรู้จักและปฏิบัติตามขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะฉะนั้นก่อนโอนเราต้องรู้ว่าการชำระค่างวดผ่านแอปพลิเคชันดีอย่างไร และวิธีการที่ควรปฏิบัติเพื่อให้การโอนเงินเป็นไปอย่างปลอดภัยต้องทำอย่างไร ประโยชน์ของการชำระค่างวดผ่านแอป 2. เช็กสัญญา ประวัติชำระ : ลูกค้าสามารถตรวจสอบรายละเอียดของสัญญาและประวัติการชำระเงินได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้มีความสะดวกสบายในการติดตามข้อมูลการชำระเงิน 3. ไม่เสียค่าธรรมเนียมการชำระ : ไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมในการชำระค่างวด ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายในการทำธุรกรรม วิธีการที่ควรทำเพื่อความปลอดภัยในการชำระค่างวด การชำระค่างวดผ่านแอปพลิเคชัน เป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่ความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด เพื่อให้การโอนเงินเป็นไปอย่างปลอดภัยและไม่มีปัญหาในอนาคต

    [email protected]
    อ่านเพิ่มเติม
  • Sustainability
    Sustainability

    ปลูกต้นไม้คนละ 1 ต้น ช่วยโลกมากกว่าที่คิด

    การปลูกต้นไม้คนละ 1 ต้นเป็นการกระทำที่ง่ายและมีประโยชน์มากมายต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของเรา การมีต้นไม้รอบบ้านไม่เพียงเพิ่มความสวยงามแต่ยังช่วยให้โลกน่าอยู่ขึ้นอย่างมาก นี่คือเหตุผลที่การปลูกต้นไม้คนละต้นสามารถสร้างผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ได้ 🌳ลดอุณหภูมิรอบบ้านได้ 2-4 องศา ต้นไม้ทำหน้าที่เป็นร่มเงาและลดความร้อนที่สะสมในพื้นที่รอบบ้านได้ ช่วยลดอุณหภูมิลงได้ถึง 2-4 องศา ทำให้บ้านเย็นสบายขึ้นโดยไม่ต้องใช้เครื่องปรับอากาศมากเท่าที่เคย 🌳ดักจับฝุ่นและมลพิษได้ถึง 1.4 กิโลกรัม/ปี ใบไม้ของต้นไม้มีความสามารถในการดักจับฝุ่นละอองและมลพิษจากอากาศ ซึ่งสามารถดักจับได้ถึง 1.4 กิโลกรัมต่อปี ช่วยให้เรามีอากาศที่สะอาดและสดชื่นมากขึ้น 🌳เก็บกักคาร์บอนเฉลี่ย 1-1.7 ตันคาร์บอน ต้นไม้มีบทบาทสำคัญในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศและเก็บกักไว้ในรูปของคาร์บอน ซึ่งเฉลี่ยแล้วต้นไม้แต่ละต้นสามารถเก็บกักคาร์บอนได้ถึง 1-1.7 ตัน ช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกและชะลอการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 🌳ป้องกันความร้อนจากดวงอาทิตย์ การปลูกต้นไม้รอบบ้านสามารถช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดที่เข้ามาถึงตัวบ้าน ลดการใช้พลังงานในการทำความเย็น และช่วยให้บ้านเย็นลงตามธรรมชาติ 🌳ผลิตก๊าซออกซิเจนเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ ต้นไม้ทำหน้าที่ผลิตก๊าซออกซิเจนผ่านกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณอากาศบริสุทธิ์ในบริเวณที่เราดำรงชีวิต ทำให้เรามีสุขภาพที่ดีขึ้น การปลูกต้นไม้คนละ 1 ต้นเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ไม่เพียงแต่ช่วยลดอุณหภูมิและมลพิษ แต่ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพชีวิตและสุขภาพของเรา รวมถึงการปกป้องโลกในระยะยาว ดังนั้น เริ่มปลูกต้นไม้กันวันนี้ เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสและยั่งยืนกว่าเดิม

    [email protected]
    อ่านเพิ่มเติม
  • Knowledge
    Knowledge

    จะเกิดอะไรขึ้น ? เมื่อขาดต่อพ.ร.บ.

    การมี พ.ร.บ. (พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ) เป็นสิ่งที่ผู้ใช้รถทุกคนในประเทศไทยต้องปฏิบัติตาม เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองทั้งในด้านกฎหมายและความปลอดภัยทางการเงิน หากคุณขาดต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ จะมีผลกระทบหลายด้าน ซึ่งสามารถสรุปได้ดังนี้ 1. มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท การขาดต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ซึ่งหากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจพบว่า พ.ร.บ. ของรถยนต์ของคุณหมดอายุ คุณจะถูกปรับเป็นเงินสูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท การจ่ายค่าปรับนี้ถือเป็นการเสียค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็นและสามารถหลีกเลี่ยงได้หากต่อ พ.ร.บ. ให้ทันเวลา 2. ไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ การต่อภาษีรถยนต์ประจำปีเป็นข้อบังคับตามกฎหมาย ซึ่งต้องทำพร้อมกับการต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ดังนั้นหากคุณขาดต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ คุณจะไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ได้ ส่งผลให้การใช้งานรถยนต์ของคุณไม่ถูกต้องตามกฎหมายและอาจถูกปรับเพิ่มเติม 3. หากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง พ.ร.บ. รถยนต์มีบทบาทสำคัญในการให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถในกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยเฉพาะการคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลและค่าชดเชยต่างๆ หากคุณขาดต่อ พ.ร.บ. และเกิดอุบัติเหตุ คุณจะไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. ซึ่งอาจทำให้คุณต้องเผชิญกับค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่สูงมาก 4. ไม่ได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. และต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆ […]

    [email protected]
    อ่านเพิ่มเติม
  • Sustainability
    Sustainability

    5วิธีในการ ดูแลสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำวัน

    การดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ทุกคนควรให้ความสำคัญและเริ่มต้นได้ในชีวิตประจำวัน การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ สามารถมีผลใหญ่ในการลดผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อธรรมชาติ วันนี้น้องใกล้ชิดมี 5 วิธีง่ายๆ สามารถทำได้ในชีวิตประจำวันเพื่อช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมจะมีวิธีอะไรบ้างไปดูกันเลย 1. แยกขยะก่อนทิ้งลงถัง การแยกขยะเป็นขั้นตอนสำคัญในการลดปริมาณขยะที่ต้องนำไปกำจัดในที่ฝังกลบ การแยกขยะทำให้สามารถนำขยะบางประเภทไปรีไซเคิลหรือทำปุ๋ยหมักได้ เช่น ขวดแก้ว กระดาษ พลาสติก และขยะอินทรีย์ ควรจัดเตรียมถังขยะที่บ้านให้มีหลายใบเพื่อแยกขยะประเภทต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ ซึ่งจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรและลดมลพิษในธรรมชาติ 2. ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก การใช้ถุงพลาสติกเป็นสาเหตุหนึ่งของปัญหาขยะพลาสติกที่ตกค้างในสิ่งแวดล้อม ถุงพลาสติกต้องใช้เวลานับร้อยปีในการย่อยสลาย การเปลี่ยนมาใช้ถุงผ้าที่สามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้งจะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกอย่างมีนัยสำคัญ เราสามารถพกถุงผ้าติดตัวไว้ทุกครั้งที่ออกไปซื้อของ เพื่อช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกได้ 3. ปิดน้ำ ปิดไฟ เมื่อไม่ใช้ การปิดน้ำและปิดไฟเมื่อไม่ใช้งานเป็นวิธีที่ง่ายแต่มีผลมากในการประหยัดพลังงานและน้ำ การประหยัดน้ำช่วยลดการใช้น้ำและลดการปล่อยน้ำเสียที่ต้องผ่านกระบวนการบำบัด การปิดไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อไม่ใช้จะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 4. หลีกเลี่ยงการใช้โฟม โฟมเป็นวัสดุที่ย่อยสลายยากและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก เราหลีกเลี่ยงการใช้โฟมได้โดยการใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทำจากวัสดุที่ย่อยสลายได้หรือรีไซเคิลได้ เช่น กระดาษหรือพลาสติกชีวภาพ เลือกใช้ภาชนะที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้แทนการใช้โฟม 5. ไม่เผาขยะ ไม่ทิ้งน้ำเสียลงแม่น้ำลำคลอง การเผาขยะเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ เนื่องจากการเผาขยะจะปล่อยก๊าซพิษและฝุ่นละอองที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ การทิ้งน้ำเสียลงแม่น้ำลำคลองจะทำให้น้ำในแม่น้ำเสื่อมสภาพและเป็นพิษต่อสัตว์น้ำและสิ่งแวดล้อม ควรกำจัดขยะในวิธีที่ถูกต้อง และบำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงแม่น้ำลำคลอง การดูแลสิ่งแวดล้อมไม่ได้เป็นเรื่องยาก หากเราทุกคนมีความตั้งใจและเริ่มเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน การปรับตัวให้สอดคล้องกับธรรมชาติจะช่วยให้โลกของเราเป็นที่อยู่ที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน เมื่อสิ่งแวดล้อมดีสุขภาพเราก็ดีตามไปด้วย

    [email protected]
    อ่านเพิ่มเติม
  • Articles
    Articles

    แชร์ไอเดีย เปลี่ยนขยะ ให้เป็นประโยชน์

    ในยุคปัจจุบัน ปัญหาขยะเป็นหนึ่งในปัญหาที่สำคัญและมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของมนุษย์ การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรและการบริโภคที่สูงขึ้นส่งผลให้ปริมาณขยะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว การจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพและการนำขยะมาใช้ประโยชน์ใหม่จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมที่ยั่งยืน แถมช่วยสร้างรายได้ให้เราอีกด้วย จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลย 1. ทำงานฝีมือ การทำงานฝีมือจากขยะเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการนำวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ใหม่ ไม่เพียงแค่ช่วยลดปริมาณขยะ แต่ยังช่วยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และสามารถสร้างรายได้เสริมได้ด้วย ตัวอย่างการทำงานฝีมือ: 2. แปรรูปเป็นเชื้อเพลิงหรือปุ๋ย การแปรรูปเป็นเชื้อเพลิง คือการใช้ขยะเป็นแหล่งพลังงานโดยการเผาไหม้หรือแปรรูปเป็นก๊าซหรือเชื้อเพลิงชีวภาพ การแปรรูปขยะเป็นพลังงานช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องถูกกำจัดและเป็นแหล่งพลังงานทดแทนที่สำคัญ การทำปุ๋ย คือการนำขยะอินทรีย์ เช่น เศษอาหาร เศษผักและผลไม้ ใบไม้ มาหมักเพื่อผลิตเป็นปุ๋ยธรรมชาติ การทำปุ๋ยหมักช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัดและสร้างปุ๋ยที่มีประโยชน์สำหรับการเกษตร ตัวอย่างการทำปุ๋ยหมัก: 3. รีไซเคิล การรีไซเคิล เป็นกระบวนการที่นำวัสดุที่ใช้งานแล้วกลับมาแปรรูปเพื่อผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ วัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ประกอบด้วยพลาสติก แก้ว กระดาษ และโลหะ การรีไซเคิลช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องถูกกำจัดในหลุมฝังกลบและลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ตัวอย่างการรีไซเคิล: 4. ขายรีไซเคิล การขายขยะรีไซเคิลเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดปริมาณขยะในสังคมและสร้างรายได้เสริมได้อย่างดี ตัวอย่างขยะรีไซเคิล: การเปลี่ยนขยะให้เป็นประโยชน์เป็นวิธีที่สำคัญในการลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัดและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน การทำงานฝีมือจากขยะ การแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงหรือปุ๋ย การรีไซเคิล และการขายขยะรีไซเคิล เป็นวิธีการที่สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมและสร้างสังคมที่ยั่งยืน การมีส่วนร่วมของทุกคนในสังคมเป็นสิ่งสำคัญในการประสบความสำเร็จในเป้าหมายนี้

    [email protected]
    อ่านเพิ่มเติม